สิทธิที่จะเลือกเมื่อท้องไม่พร้อม คืออะไร? มีสิ่งใดบ้างที่ผู้หญิงอย่างเราควรรู้

ผู้หญิงท้องไม่พร้อมทุกคนควรมีสิทธิที่จะเลือกทางออกที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง โดยไม่ต้องถูกบังคับหรือถูกตัดสินจากสังคม เนื่องจากการตั้งครรภ์ที่ไม่พร้อมอาจเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น ปัญหาสุขภาพ การขาดแคลนทางการเงิน หรือแม้กระทั่งการตั้งครรภ์จากการข่มขืน ซึ่งในแต่ละกรณี สิทธิในการเลือกที่จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างมีคุณภาพและปลอดภัยเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ผู้หญิงควรได้รับการรับรองสิทธิในการตัดสินใจเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของตนเอง

และเพราะเราเข้าใจในจุดนี้ จึงอยากให้ผู้หญิงทุกคนที่กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์การตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมได้รู้ว่า ยังมีทางเลือกอีกมากมายสำหรับคุณ ทั้งสิทธิในการตั้งครรภ์ต่อ สิทธิในการส่งต่ออุปการะ และสิทธิในการยุติการตั้งครรภ์อย่างถูกต้องตามกฏหมาย สร้างทางเลือก มอบสิทธิในการตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับตัวคุณเอง

Right to continue pregnancy and raise child

สิทธิในการตั้งครรภ์ต่อและเลี้ยงดูบุตร

เมื่อผู้หญิงตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม หลายคนอาจตัดสินใจที่จะตั้งครรภ์ต่อและเลี้ยงดูบุตรด้วยตัวเอง แม้จะรู้สึกไม่พร้อมในตอนแรกก็ตาม การตั้งครรภ์ต่อถือเป็นสิทธิที่ผู้หญิงทุกคนสามารถทำได้ โดยไม่ต้องถูกบังคับให้ทำการยุติการตั้งครรภ์ หากเลือกทางนี้ ผู้หญิงยังคงมีสิทธิที่ได้จะรับการดูแลด้านสุขภาพจากหน่วยงานสาธารณสุขและองค์กรที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ กรมอนามัย ยังได้จัดทำประกาศ เพื่อสนับสนุนผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ในกรณีที่ไม่พร้อม โดยให้คำแนะนำและการดูแลสุขภาพในระหว่างการตั้งครรภ์ รวมถึงการเตรียมตัวสำหรับการเลี้ยงดูบุตร หากผู้หญิงไม่สามารถดูแลบุตรของตนเองได้ การรับการสนับสนุนจากครอบครัวหรือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่สำคัญ

Right to transfer support

สิทธิในการส่งต่ออุปการะ

บางครั้ง ผู้หญิงอาจไม่มีความพร้อมมากพอที่จะเลี้ยงดูบุตรได้เนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ สุขภาพ หรือสถานการณ์อื่นๆ ที่ไม่เอื้ออำนวย การเลือกที่จะส่งต่อบุตรให้บุคคลอื่นอุปการะเป็นทางเลือกที่ได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายไทย ผู้หญิงที่ไม่สามารถเลี้ยงดูบุตรของตนเองสามารถเลือกส่งบุตรไปให้คนอื่นเลี้ยงดูในรูปแบบของการอุปการะบุตรได้

ในประเทศไทยมีหลายองค์กรที่รับอุปการะบุตร เช่น ศูนย์รับอุปการะเด็ก หรือ สถานสงเคราะห์เด็ก ซึ่งช่วยดูแลเด็กในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมเพื่อให้เด็กได้รับการเลี้ยงดูและการศึกษาที่ดี นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ผู้หญิงสามารถเลือกให้บุตรของตนไปอุปการะกับครอบครัวที่พร้อมจะดูแล ซึ่งการทำเช่นนี้ช่วยให้เด็กได้รับโอกาสในการเติบโตในครอบครัวที่พร้อมสำหรับการเลี้ยงดู

Right to terminate pregnancy

สิทธิในการยุติการตั้งครรภ์

การยุติการตั้งครรภ์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้หญิง หากเป็นการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมและไม่สามารถตั้งครรภ์ต่อได้ ในประเทศไทย การยุติการตั้งครรภ์เป็นสิทธิที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย พระราชบัญญัติการยุติการตั้งครรภ์ ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ในปี 2565 ซึ่งให้สิทธิผู้หญิงในการยุติการตั้งครรภ์ในกรณีต่างๆ ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 และ มาตรา 305 ดังต่อไปนี้

  • การตั้งครรภ์ในช่วง 12 สัปดาห์แรก ผู้หญิงสามารถตัดสินใจทำแท้งได้โดยไม่ต้องให้เหตุผลพิเศษ และไม่จำเป็นต้องมีการพิสูจน์หรือให้คำแนะนำจากแพทย์ เพียงแต่ต้องทำในสถานพยาบาลที่ได้รับการอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข
  • การยุติการตั้งครรภ์ในช่วง 12 สัปดาห์ถึง 20 สัปดาห์ หากตั้งครรภ์เกิน 12 สัปดาห์แล้วแต่ยังไม่เกิน 20 สัปดาห์ ผู้หญิงสามารถยุติการตั้งครรภ์ได้ในกรณีที่มีเหตุผลที่จำเป็น เช่น มีความเสี่ยงต่อชีวิตของแม่หรือทารก หรือหากการตั้งครรภ์เกิดจากการข่มขืน ซึ่งในกรณีนี้จำเป็นต้องมีการปรึกษากับแพทย์ในด้านการเจริญพันธุ์เพื่อพิจารณาอย่างละเอียดว่าเป็นกรณีที่สามารถทำการยุติการตั้งครรภ์ได้
  • การยุติการตั้งครรภ์เกิน 20 สัปดาห์ หากการตั้งครรภ์เกิน 20 สัปดาห์ การยุติการตั้งครรภ์จะไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายเว้นแต่จะมีกรณีพิเศษ เช่น การที่ทารกในครรภ์มีความผิดปกติร้ายแรงหรือมีความเสี่ยงต่อชีวิตของแม่และทารก การทำแท้งในช่วงเวลานี้จะต้องได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบจากแพทย์ ซึ่งจะต้องทำตามมาตรการที่คำนึงถึงความปลอดภัยสูงสุดของทั้งแม่และทารก
  • การทำแท้งในกรณีที่มีความเสี่ยงต่อชีวิตของแม่หรือทารก หากการตั้งครรภ์ส่งผลกระทบต่อชีวิตหรือสุขภาพของแม่หรือทารก การทำแท้งสามารถทำได้ตามคำแนะนำของแพทย์
  • การตั้งครรภ์จากการข่มขืน ในกรณีที่การตั้งครรภ์เกิดจากการข่มขืน ผู้หญิงสามารถเลือกทำแท้งได้โดยไม่จำกัดเวลาและไม่ต้องแสดงหลักฐาน

การยุติการตั้งครรภ์จะต้องทำในสถานพยาบาลที่ได้รับการอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข และผู้หญิงจะต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนการตัดสินใจ เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วนเกี่ยวกับการทำแท้งและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

rsa-network

บริการยุติการตั้งครรภ์ในเครือข่าย RSA

เครือข่าย RSA (Reproductive Health Service Access) คือเครือข่ายสถานพยาบาลและหน่วยงานที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมีการให้บริการด้านสุขภาพเจริญพันธุ์อย่างครบวงจร รวมถึงการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย บริการในเครือข่าย RSA มุ่งเน้นความปลอดภัยและการดูแลผู้หญิงที่มีความต้องการยุติการตั้งครรภ์ โดยมีการให้คำปรึกษาจากแพทย์ก่อนการตัดสินใจ พร้อมทั้งดูแลหลังการทำแท้งเพื่อให้ผู้หญิงมีสุขภาพที่ดีและสามารถฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว

เครือข่าย RSA ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขและองค์กรที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้บริการที่มีมาตรฐานสูงและปลอดภัย ซึ่งบริการเหล่านี้มุ่งเน้นการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้รับบริการและการคุ้มครองสิทธิของผู้หญิงในการตัดสินใจเรื่องการตั้งครรภ์ของตนเอง โดยทุกขั้นตอนของการให้บริการจะต้องทำในสถานพยาบาลที่ได้รับอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อให้มั่นใจได้ว่า การยุติการตั้งครรภ์จะทำได้อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย

นอกจากนี้ ยังมีการให้คำปรึกษาจิตวิทยาและการสนับสนุนทางอารมณ์แก่ผู้หญิงที่เลือกทำการยุติการตั้งครรภ์ เพื่อช่วยให้สามารถจัดการกับผลกระทบทางจิตใจและอารมณ์หลังการทำแท้งได้ดีขึ้น การเข้าถึงบริการจากเครือข่าย RSA จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยและเหมาะสมสำหรับผู้หญิงที่ต้องการการดูแลที่มีคุณภาพในทุกขั้นตอนของกระบวนการ

apidat-clinic

ยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยกับ Apidat Clinic คลินิกเฉพาะทางสูติและนรีเวช

Apidat Clinic เป็นหนึ่งในคลินิกที่อยู่ในเครือข่าย RSA ที่ได้รับการยอมรับในด้านการให้บริการยุติการตั้งครรภ์อย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฎหมาย ที่นี่มีทีมแพทย์และบุคลากรที่มีความความรู้ ความสามารถในการดูแลสุขภาพเจริญพันธุ์ การยุติการตั้งครรภ์ที่ Apidat Clinic คุณจะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การให้คำปรึกษาก่อนการยุติการตั้งครรภ์ จนถึงการดูแลหลังยุติการตั้งครรภ์ เพื่อให้ผู้หญิงมีสุขภาพที่ดีและพร้อมกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ

การให้บริการที่ Apidat Clinic นั้นถือว่าได้มาตรฐาน ทั้งในเรื่องของความสะอาด ความปลอดภัย และความเป็นส่วนตัวของผู้รับบริการ นอกจากนี้ยังมีการให้คำปรึกษาด้านจิตวิทยาเพื่อช่วยให้ผู้หญิงจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกที่อาจเกิดขึ้นหลังยุติการตั้งครรภ์

ผู้หญิงไม่ควรต้องเผชิญหน้ากับการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมเพียงลำพัง ทุกคนมีสิทธิในการเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดสำหรับตนเอง โดยไม่ต้องถูกบังคับหรือถูกตัดสินจากสังคม ไม่ว่าจะเป็นการตั้งครรภ์ต่อ การส่งต่อบุตรให้ผู้อื่นอุปการะ หรือการยุติการตั้งครรภ์ ทุกทางเลือกได้รับการคุ้มครองโดยกฎหมาย และมีบริการที่พร้อมให้การสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เครือข่าย RSA ที่ช่วยให้ผู้หญิงได้รับการดูแลอย่างปลอดภัยและถูกต้องตามกฏหมาย

สุดท้ายนี้ ผู้หญิงควรได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง และควรมีการให้คำปรึกษาจากแพทย์เฉพาะทางโดยตรงเพื่อให้ผู้หญิงสามารถตัดสินใจเลือกทางที่ดีที่สุดสำหรับตนเองได้

Scroll to Top